ทุกวันนี้น้ำหอมเป็นไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะสามารถบอกถึงรสนิยมและตัวตนของเราได้เป็นอย่างดี หลายคนน่าจะยังไม่รู้จักคำว่า Dupe คืออะไร? ทำไมกลิ่นเหมือนแบรนด์ Hi-End แสนแพง แต่ราคากลับต่างกันเป็นสิบเท่า ในบทความนี้แอดมินเอสเซ็นเทียร์ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักว่าน้ำหอม Dupe กันค่ะ จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
น้ำหอม Dupe คืออะไร?
Dupe มีรากศัพท์มาจากคำว่า Duplicate ที่แปลว่า จำลอง สำเนา หรือ เหมือนกัน โดยคำว่า “Dupe” ถูกนำมาใช้ในแวดวงความสวยความงาม ตั้งแต่บรรดาสกินแคร์ เครื่องสำอาง ไปจนถึงน้ำหอม ใช้เรียกผลิตภัณฑ์ที่มีความละม้ายคล้ายกันกับแบรนด์ดังที่มีราคาสูงกว่า จนสามารถเป็นสินค้าทดแทนกันได้
น้ำหอม Dupe เป็นน้ำหอมปลอมใช่หรือไม่?
ถ้าหากทำกลิ่นเหมือนน้ำหอมแบรนด์ดัง บรรจุขวดเหมือน ติดตราเดียวกัน และอ้างว่าเป็นน้ำหอมตัว Original แบบนี้จะผิดกฎหมายเรื่องลิขสิทธิ์ และการลอกเลียนแบบ นับว่าเป็นน้ำหอมปลอมค่ะ แต่น้ำหอม Dupe จะเป็นการได้แรงบันดาลใจมาจากกลิ่นน้ำหอมแบรนด์ที่ชอบ ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า ไม่ได้เสียหายหากผู้ขายและผู้ซื้อมีความต้องการตรงกันค่ะ
วิธีการปรุงน้ำหอม Dupe
ปกติแล้วสารหอมมีมากมายหลายพันชนิด แม้การปรุงน้ำหอม Dupe จะมีการเลือกสารหอมที่เหมือนกับแบรนด์ดังเป๊ะๆ แต่สัดส่วนและความเข้มข้นของสารนั้นอาจจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับราคาของสารด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะเจือจางที่ 1%, 5%, 10%, 20% หรือ 50% หรือ conc 100% ขึ้นอยู่กับการนำมาใช้
หากกล่าวถึงวัตถุดิบในการปรุงน้ำหอมหลายคนอาจจะชอบใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ เพราะเชื่อว่าปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่า แต่แท้จริงแล้วกลิ่นที่ได้จากการสังเคราะห์นี้ก็มีดีไม่แพ้กัน ในบทความนี้แอดมินเอสเซ็นเทียร์ จะพาทุกคนมาดูความแตกต่างระหว่างน้ำหอมสังเคราะห์ (Synthetic Perfume) กับ น้ำหอมจากธรรมชาติแท้ (Natural Perfume) มาฝากกันค่ะ จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
น้ำหอมสังเคราะห์ (Synthetic Perfume) คืออะไร?
น้ำหอมกลิ่นสังเคราะห์ คือกลิ่นที่ได้มาจากกระบวนการทางเคมีในห้องปฏิบัติการที่มักจะมาจากผลพลอยได้จากปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อทดแทนการทำลายธรรมชาติอย่างการตัดไม้ทำลายป่า เช่น การทดแทนไม้กฤษณาหรือไม้จันทน์ รวมถึงการล่าสัตว์ เช่น กลิ่นมัสก์ที่แต่เดิมต้องล่ากวางจำนวนมากเพื่อนำผลิตเป็นวัตถุดิบในการปรุงน้ำหอม นอกจากนี้กลิ่นสังเคราะยังช่วยเรื่องการประหยัดทรัพยาการได้เนื่องจากใช้ในปริมาณที่น้อยลง
ซึ่งน้ำหอมบริสุทธิ์จะมีความเข้มข้นสูงสุดเพราะมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ ส่วนน้ำหอมที่มาจากสารเคมีจะมีความเข้มข้นของน้ำหอมลดลง ผู้ที่มีผิวบอบบางอาจจะต้องทดสอบความแพ้ก่อนทดลองใช้จริง
ข้อดีของน้ำหอมสังเคราะห์
- เป็นกลิ่นที่มีความเสถียรและสามารถควบคุมคุณภาพได้ เนื่องจากเป็นการผลิตที่ไม่ต้องพึ่งพาฤดูกาลหรือสารจากธรรมชาติที่บางครั้งอาจได้ความหอมในการผลิตแต่ละครั้งอาจไม่เหมือนเดิม
- ระยะเวลาในการเก็บรักษายังยาวนานกว่าอีกด้วย
- น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ 100% จะมีปริมาณสารก่อภูมิแพ้สูงกว่าน้ำหอมสังเคราะห์ ตัวอย่าง เช่น การเกิดอาการแพ้กับเกสรดอกไม้สำหรับบางคน กลิ่นสังเคราะห์สามารถหยิบเอาสารบางตัวที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ตามธรรมชาติออกได้จึงเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้เพื่อให้ผู้ใช้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- ระยะเวลาในการเก็บรักษายังยาวนานกว่าอีกด้วย
- น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ 100% จะมีปริมาณสารก่อภูมิแพ้สูงกว่าน้ำหอมสังเคราะห์ ตัวอย่าง เช่น การเกิดอาการแพ้กับเกสรดอกไม้สำหรับบางคน กลิ่นสังเคราะห์สามารถหยิบเอาสารบางตัวที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ตามธรรมชาติออกได้จึงเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้เพื่อให้ผู้ใช้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ข้อเสียของน้ำหอมสังเคราะห์
- กลิ่นที่สังเคราะห์ไม่สามารถทดแทนน้ำมันหอมระเหยได้คือ สรรพคุณ และการออกฤทธิ์ด้านการบำบัดต่างๆ
ถึงแม้ว่าส่วนผสมและสารเคมีที่ใส่เข้าไปในน้ำหอมจะมีความสำคัญและอาจส่งกระทบต่อผู้บริโภคได้ ดังนั้นก่อนจะเลือกใช้น้ำหอมหรือเครื่องหอมต่างๆ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองเป็นหลักด้วย