Tel. 097-9537068

เอสเซ็นเทียร์ – โทนกลิ่นน้ำหอมกลิ่นขนมหวาน Gourmand หวานชื่นใจ แต่ไร้แคลลอรี่
เอสเซ็นเทียร์พาทุกคนาทำความรู้จักน้ำหอมโทนขนมหวาน (Gourmand) หวานชื่นใจ แต่ไร้แคลลอรี่
ในปัจจุบันน้ำหอมมีการพัฒนากลิ่นให้ซับซ้อน มีมิติ มากขึ้น การเลือกฉีดน้ำหอมในแต่ละวัน จะช่วยเพิ่มพลังบวกให้ดียิ่งขึ้น หลายๆคนที่สนใจเรื่องน้ำหอม นอกจากจะสนใจว่าขวดนี้หอมถูกใจหรือไม่ บางคนก็อาจจะชอบไปถึงขั้นที่ว่ากลิ่นนี้เหมาะกับการใช้ในสถานการณ์ไหน หรือเหมาะกับคนบุคลิกแบบไหนด้วย

วันนี้แอดมิน Essentir จะพาทุกคนมาทำความรู้จักโทนกลิ่นน้ำหอม Gourmand คืออะไร ? เหมาะกับบุคลิกแบบไหน? เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับลุคและสไตล์ของตัวเองมาฝากกันค่ะ

น้ำหอมกลิ่นขนมหวาน หรือ Gourmand Fragrance

 น้ำหอมตระกูลน้ำหอมกูร์มองด์ หรือ Gourmand Fragrances คืออะไร ? 

       เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นคล้ายของกิน เน้นการนำเสนอกลิ่นหอมหวานจากสิ่งที่รับประทานได้ เช่น น้ำผึ้ง    คาราเมล วานิลลา ช็อกโกแลตคั่ว ครีม อัลมอนด์ ถั่วตองก้า  และขนมสายไหม แต่ในปัจจุบันก็เริ่มมีการนำเอากลิ่นอาหารคาวมาใช้เป็นกลิ่นร่วมด้วย เช่น อาหารอินเดีย อาหารไทย รวมถึงชาติอื่นๆ มักจะผสมกับกลิ่นมัสค์ และใบแพทชูลี ที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้น้ำหอมในตระกูลกูร์มองด์ยังเข้ากันได้ดีกับดอกไม้หลายชนิดอีกด้วย
      ทำให้น้ำหอมตระกูลนี้มีความหลากหลายและสามารถสร้างสรรค์งานที่ไม่รู้จบ แต่ส่วนใหญ่น้ำหอมตระกูลนี้จะมีกลิ่นที่เข้มข้น และฉุน ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการใช้ในเวลากลางวันมากนัก

 ต้นกำเนิดตระกูลน้ำหอมกูร์มองด์ 
       มาจากตระกูลน้ำหอมแอมเบอร์ หรือในอดีตเรียกว่า ตระกูลน้ำหอมโอเรียนทอล ซึ่งได้รับความนิยมในปี ค.ศ. 1990 โดย Guerlain Shalimar ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 1925 ได้กลายเป็นน้ำหอมตัวแรกในตระกูลน้ำหอมกูร์มองด์ที่เก่าแก่ที่สุด และมีชื่อเสียงในด้านการใช้วานิลลาได้อย่างอุดมสมบูรณ์ แต่ในช่วงแรกนั้นน้ำหอมตระกูลนี้กลับไม่ได้รับความนิยมและยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนักจนในปี ค.ศ. 1992 หลังจากน้ำหอม Angel eau de perfume ที่ถูกรังสรรค์โดย Thierry Mugler ก็ได้เปลี่ยนทัศนคติ ของผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้น้ำหอมหลายคน กลายเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายและเป็นน้ำหอมตัวแรกในตระกูลน้ำหอมกูร์มองต์ ที่ปรากฏบนรันเวย์แฟชั่นอีกด้วย
 สารสังเคราะห์ในตระกูลน้ำหอมกูร์มองด์ 
วานิลลา
เป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แต่ด้วยความยากลำบากในการปลูกและเก็บเกี่ยว วานิลลาจึงเป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่แพงที่สุดในโลก ในปีค.ศ. 1858 เมื่อ Nicolas-Theodore Gobley นักชีวเคมีชาวฝรั่งเศสได้ตกผลึกสาร วานิลลิน (vanillin) จากสารสกัดวานิลลา ซึ่งมีราคาถูกกว่ามาก จึงมีการใช้แทนวานิลลาแท้กันอย่างแพร่หลาย

ถั่วตองก้า
มีกลิ่นคล้ายวานิลลาและมีสารคูมาริน (coumarin) ในปริมาณสูง ที่ทำให้ถั่วตองก้ามีกลิ่นที่เฉพาะตัวและน่าจดจำ แต่มีราคาสูงมาก ทำให้อุตสาหกรรมน้ำหอมเลือกที่จะใช้คูมารินมาเป็นสารทดแทนเพื่อลดต้นทุนในการผลิต

คาราเมล
สารประกอบที่สร้างกลิ่นของคาราเมลคือ มอลทอล (maltol) ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในมอลต์ มีกลิ่นที่รุนแรงมาก สามารถทำลายกลิ่นหอมอื่นๆได้หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง

น้ำผึ้ง
การใช้น้ำผึ้งที่มีกลิ่นหวาน เข้มข้น ปนอบอุ่น จะสามารถทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นและน่าปลอบโยนได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถเข้ากับโครงสร้างของน้ำหอมกูร์มองต์ได้เป็นอย่างดี

กาแฟคั่ว
โน้ตของกาแฟเป็นกาแฟคั่วเข้ม ให้ความกระฉับกระเฉง และน่าหลงใหล มีกลิ่นหอมของควัน ซ่อนความหวานเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่จะใช้ร่วมกับสารประกอบอื่นๆ ที่ให้กลิ่นหวานเพื่อชูโน๊ตของกาแฟคั่วขึ้นมา จึงทำให้น้ำหอมกาแฟส่วนใหญ่จะมีกลิ่นที่ค่อนข้างหวาน แตกต่างจากกาแฟที่เราดมทั่วไป

ช็อกโกแลต
ด้วยกลิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ให้ความหอมหวานและความขมในเวลาเดียวกัน และนิยมใช้น้ำหอมหอมตระกูลนี้ ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น และนุ่มนวล โดยจะต้องใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ เพื่อดันกลิ่นของช็อกโกแลตให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

กำยาน
กำยานหรือยางไม้หลายชนิดนั้นมีกลิ่นหวานคล้ายขนมหวาน ถูกนำมาใช้ในน้ำหอมกูร์มองต์อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กำยานที่ได้มาจากเปลือกของต้น styrax ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นหวานที่คล้ายกับกลิ่นของวานิลลาที่เข้มข้น แต่จะมีกลิ่นอื่นๆ แฝงอยู่ เช่น กลิ่นควัน กลิ่นธูป บัลซามิก และ styrax เองก็นับว่าเป็นสารตรึงกลิ่น (Fixative) ที่ได้รับความนิยมในน้ำหอมกูร์มองด์

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้หลายๆคนนะคะ ในบทความหน้าแอดมิน Essentir จะนำความรู้อะไรมาฝากอีก ฝากติดตามกันด้วยค่ะ